แม่ชีแก้ว พระอรหันต์แห่งบ้านคำชะอี จ.มุกดาหาร

"แม่ชีแก้ว พระอรหันต์แห่งบ้านคำชะอี จ.มุกดาหาร"
                         ก่อนลาสิกขาช่วงบ่ายของวันนี้ ( 24 มิ.ย.63) ขออนุญาตท่านเจ้าอาวาสไปกราบแม่ชีแก้วที่บ้านคำชะอี จ.มุกดาหาร
แม่ชีแก้วผู้ล่วงลับเป็นศิษย์สายวัดป่า (ท่านศรัทธาหลวงปู่มั่นเป็นอย่างยิ่ง) ช่วงวัยแรกรุ่นหลวงปู่มั่นเดินธุดงค์ผ่านพื้นที่ของท่าน ได้ฟังธรรมจากหลวงปู่มั่นแล้วเกิดศรัทธา อยากจะขอออกบวชร่วมด้วย แต่ท่านได้ถูกทัดทานจากหลวงปู่
                       หลวงปู่มั่นกล่าวกับคุณแม่ชีว่า "หากเจ้าเป็นผู้ชาย เราจะให้บวชเป็นเณรและให้ติดตามไปด้วย แต่นี่เป็นหญิง ไปด้วยก็ลำบากต่อพระธรรมพระวินัย และสั่งว่าให้หยุดภาวนา ตั้งแต่นี้ต่อไปให้ใช้กรรมไปตามประสาโลก กาลต่อไปข้างหน้าจะมีผู้มาสั่งสอน" หลังจากหลวงปู่มั่นเดินทางธุดงค์ต่อไป คุณแม่ก็ได้ครองรักครองเรือนในช่วงวัยรุ่น ช่วงนั้นอายุน่าจะประมาณ 17 ปี
สำหรับผู้มีวาสนาย่อมเห็นโทษของการครองเรือน จึงได้ขอสามีบวชชี แต่สามีไม่ยินยอม ได้พยายามอยู่ถึง 2 ปี สามีจึงยินยอมให้บวช ชีวิตนักบวชจึงได้เริ่มต้น เมื่ออายุได้ 36 ปี ณ วัดหนองน่อง บ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร โดยมีหลวงพ่อกา (ปู่ของพระอาจารย์อินทร์ถวาย วัดป่านาคำน้อย) เป็นพระอุปัชฌาย์
                       พ.ศ. 2493 คุณแม่ชีแก้วได้นิมิตเห็นดังที่หลวงปู่มั่นได้เคยกล่าวไว้ ว่า กาลต่อไปข้างหน้าจะมีผู้มาสั่งสอน หลังจากนั้นปรากฎว่า มีพระผ่านมา แต่แม่ชีแก้วก็ว่าไม่ใช่องค์นี้ จนกระทั่งหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้เดินทางมากับพระเณรจำนวนหนึ่ง ท่านเห็นแล้วรู้ทันทีว่าเป็นพระอาจารย์องค์นี้ที่ปรากฎตามนิมิตแน่ จึงได้นิมนต์ต้อนรับดังนิมิตที่เห็น
                      คุณแม่ชีแก้วคือแบบอย่างในการปฏิบัติธรรม และ แสดงให้เห็นว่า "ผู้หญิงก็บรรลุธรรมได้ อยู่ที่การปฏิบัติ และ จิตใจอันแน่วแน่จึงทำให้คุณแม่ชีสำเร็จเป็นพระอรหันต์ในที่สุด"
                     คติธรรมของคุณแม่ชีที่น่าสนใจ อาทิ เช่น
- มีตาก็ดู มีหูก็ฟัง มีใจก็พิจารณา
- คำปากเว้ามันง่ายปานหยัง (คำพูดๆได้ง่าย แต่อาจจะทำไม่ได้ตามคำพูด ) เว้า ภาษาอีสาน แปลว่า พูด
- คนจริงนิ่งเป็นใบ้ คนพูดได้นั้นไม่จริง
- ฯลฯ
                    วันนี้ข้าพเจ้าเดินเข้าไปในเจดีย์ของคุณแม่ชีแล้วรู้สึกร่มรื่น และ สงบใจเป็นพิเศษ การบวชในครั้งนี้ถือว่าเป็นกำไรชีวิตของข้าพเจ้าอย่างยิ่ง เพราะแม้มีเงินก็หาซื้อประสบการณ์ชีวิตแบบนี้ที่ไหนไม่ได้
พร้อมแล้วที่จะต้องออกไปต่อสู้กับความวุ่นวายของทางโลก (อีกครั้ง) และ ข้าพเจ้าขอให้สัจจ์สาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าจะใช้หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าในการดำเนินชีวิต ไม่เอาเปรียบผู้ใด จะตั้งอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม และ จะทำนุบำรุงศาสนาตามกำลังที่จะทำได้ และ ตามโอกาสอันสมควร
                   ทานเป็นบารมี สิ่งนี้ที่ข้าพเจ้าเข้าถึงหลักธรรมคำสอน ยิ่งให้ยิ่งได้รับ ยิ่งไม่เกลียดยิ่งมีคนรัก เพราะอ่อนน้อมถ่อมตนคนมักจะวิ่งเข้ามาหา รักใคร่เราเสมอมา ให้ 1 บาท แต่ได้กลับมา 10 หรือ 20 บาทเสมอ ขอบคุณธรรมะที่สอนให้ลูกตั้งอยู่ในความดีงาม
หากเมื่อใดที่ลูกคดโกงผู้อื่น หรือ มิได้ตั้งอยู่ในความสุจริตโดยธรรมแล้วไซร้ ก็ขอให้ลูกล่มจมอย่าได้มีที่ยืนอยู่ในสังคม แต่ถ้าหากลูกประพฤติปฏิบัติดี ประพฤติชอบ ก็ขอให้ลูกมีแต่เรื่องดีๆเข้ามาในชีวิตลูก มีแต่คนนิยมชมชอบ ไม่เดือดร้อนและลำบากในการดำเนินชีวิตด้วยเทอญฯ

                   บันทึกเมื่อ 24 มิถุนายน 2563 ( ณ วัดถ้ำบ่หลบ จ.กาฬสินธุ์)

ครูโอ มงคล ราชาโชค

 

Visitors: 8,358